โครงการพัฒนาศูนย์น่านศึกษาให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้เสริมสร้างความสุขและความเข้มแข็งของชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการบริหารศูนย์น่านศึกษาหออัตลักษณ์นครน่าน ศึกษาและจัดการองค์ความรู้พื้นถิ่นน่าน และล้านนาตะวันออกในมิติต่างๆ สู่การเรียนรู้ของชุมชน ภาคีเครือข่าย สร้างพื้นที่เรียนรู้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการจัดการองค์ความรู้เสริมสร้างความสุขและความเข้มแข็งของชุมชน
หออัตลักษณ์นครน่าน วิทยาลัยชุมชนน่าน ดำเนินการกิจกรรมฝึกอบรมจัดทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ภายใต้โครงการพัฒนาศูนย์น่านศึกษาให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้เสริมสร้างความสุขและความเข้มแข็งของชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในวันที่ 25 – 27 สิงหาคม 2564 ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าน่าน ร้านฝ้ายเงิน ตำบลกองควาย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
โดยการใช้เทคนิคการฝึกอบรมคือ ‘ชิโบริ’(Shibori) ศิลปะการมัดย้อมผ้าแบบญี่ปุ่น “ชิโบริ (Shibori)” คือ คำในภาษาญี่ปุ่น ที่หมายถึงเทคนิคการสร้างลวดลายลงบนผ้า โดยการกันสี ไม่ให้ซึมเข้าไปในลายผ้า โดยวิทยากรอาจารย์ เทิดศักดิ์ อินแสง ผู้จัดการร้านฝ้ายเงิน เครือข่ายศูนย์เรียนรู้เรื่องผ้าน่าน(ฝ้ายเงิน) ได้นำให้ทุกคนได้เข้าใจกระบวนการสร้างสรรค์ “การมัดย้อม”, “การหนีบผ้า”, “การสอยผ้า” ซึ่งเทคนิคชิโบริ เป็นเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่ ญี่ปุ่น, แต่หมายรวมถึง แอฟริกา, อินเดีย, และอเมริกาใต้ เสน่ห์ของงานประเภทนี้ก็คือ ผลลัพธ์ หลังการย้อม ทำให้งานผ้าแต่ละผืน ต่างก็มีเอกลักษณ์ – คุณค่า – และเสน่ห์ – แตกต่างกันไป
วิธีการมัดย้อมแบบชิโบริ จะมีวิธีการทำลวดลาย ที่ละเอียดกว่าการมัดย้อมของไทย ด้วยการเย็บด้ายเป็นลายต่างๆ เข้าไปในเนื้อผ้าแทนการใช้เชือกมัด ซึ่งหลังการย้อมจะได้ลวดลายที่ละเอียดและสวยงามกว่ามาก อีกทั้งการย้อมผ้าแบบชิโบริจะเป็นการย้อมผ้าแบบเย็น ไม่จำเป็นต้องนำผ้าที่จะย้อมลงไปต้มในน้ำเดือด “ผ้าที่ย้อมแบบชิโบริของชาวญี่ปุ่น เราจะเห็นได้จากชุดกิโมโนลายโบราณ ซึ่งศิลปินที่ทำผ้าเหล่านี้ เขาจะมีเทคนิคในการทำลายเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นลายนก ดอกซากุระ เขาจะทำได้อย่างละเอียดมาก วิธีการย้อม แบบ ชิโบรินิยมย้อมกับผ้าเนื้อบาง เพราะจะทำการมัดได้แน่นกว่าเนื้อผ้าหนาๆ ที่มาถึงการย้อมผ้าแบบชิโบริ อุปกรณ์หลักที่ใช้ในการทำกิจกรรม ผ้าใยธรรมชาติ , ผ้าลินิน , กรรไกร , เข็ม , ด้าย , เทียน พืชที่ให้สีธรรมชาติ ดอกดาวเรือง แก่นฝาง ใบมะม่วง เปลือกมะพร้าว , สารส้ม , ปูนแดง
วัสดุสร้างลาย เช่น ลูกปัด เม็ดถั่วเขียว หนังยาง ไม้หนีบผ้า ท่อพีวีซี แผ่นไม้รูปทรงต่างๆ
กระแส ความนิยม ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดไปสู่งาน Organic การอนุรักษ์ และการมองวิถี กลับคืนสู่ธรรมชาติ มองปัจจัยสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Healthy & Environmentally Friendly) การตื่นตัวด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ทำให้เกิดค่านิยมต่อต้านสินค้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือ “ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว” เพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าที่ดีจะต้องเกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค และสินค้าใช้แล้วเมื่อเป็นขยะต้องไม่ก่อมลพิษต่อไป ค่านิยมดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการผลักดัน ให้มีการหันกลับมาใช้สิ่งทอย้อมสีธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น